
เรื่องราวของฆาตกรตัวน้อยเธอได้รัยฉายาและขึ้นอยู่ในประวัติสตร์โลกว่า ฆาตกรที่น่ารักที่สุดในโลกและที่มาของคำนี่ก็คือ เสื้อของฆาตกรนั้นเอง เด็กหญิงนัทสึมิ ซึมิ อายุ 12 ปี นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 เรื่องราวสะเทือนขวัญคนทั้งโลกนี้ เกิดขึ้นที่ เมืองซาเซโบ นางาซกิ ในประเทศญี่ปุ่น มีการฆาตกรรมสะเทือนขวัญเกิดขึ้น และยังเป็นคดีที่โด่งดังอย่างมากเป็นประวัติศาสตร์ของโลกเลย เนื่องจาก นัทสึมิ ได้ก่อเหตุน่ากลัวขึ้นคือ ฆ่าเพื่อนร่วมชั้นกับเธอและเป็นเพื่อนคนเดียวที่เธอสนิทและคบหาด้วย นัทสึมิเป็นเด็กเงียบ และไม่ยุ่งหรือไปสุงสิงกับใครมากนัก แต่ค่อยข้างที่จะมีอารมณ์โมโหรุนแรง ก้าวร้าว แต่ที่น่าแปลกคือ นัทสึมิ เป็นเด็กที่มีไอคิวสูงถึง 140 ซึ่งนับว่าเข้าข่ายเด็กอัจฉริยะเลย ผลการเรียนของเธอก็ไม่แย่ วันที่ 27/05/2004 นัทสึมิ ได้ทะเลาะกับเพื่อนสนิมของเขาที่มีชื่อว่า ซาโตมิ เรื่องที่ทั้ง 2 คนทะเลาะกันนั้น เป็นเพราะคำพูดเพียงแค่ว่า “หนัก” ที่ซาโตมิไปคอมเม้นท์แซว นัทสึมิ ในบอร์ดไดอารี่ของ นัทสึมิ จึงเป็นเหตุที่ทำให้ นัทสึมิ โกรธเคืองและไม่พอใจเพราะ นัทสึมิ ถือว่าเป็นคำหยาบคาย และนี่คือสิ่งที่จุดประเด็นเบื้องต้นที่ทำให้แค้นและมีความคิดที่อยากจะฆ่า ซาโตมิ วันที่ 28/05/2004 นัทสึมิได้เขียนวิธีการฆ่าขึ้นมา 3 แบบเพื่ออ่านการฆ่าที่ นัทสึมิ เขียนในไดอารี่นั้นมี มีดคัตเตอร์ ที่เจาะน้ำแข็ง หรือจะบีบคอ ต่อด้วยประโยคที่เขียนว่า “วันนี้จะฆ่ามันแต่ทำไมได้ …” และในวันต่อมาคือ 29/05/2004 นัทสึมิ ได้คุยกับ ซาโตมิ ในบอร์ดไดอารี่เพื่อบอกว่าให้ยอมขอโทษเธอสะแต่ ซาโตมิ กลับไม่ยอมขอโทษแถมยังมาคอมเม้นท์ในบอร์ดของ นัทสึมิ ว่า “อวดเก่ง” นัทสึมิ พยายามลบอยู่หลายครั้งแต่ ซาโตมิ ก็ยังมาทำใหม่ทำให้ นัทสึมิ โกรธแค้นอย่างมากและได้พูดคำสุดท้ายว่า “แกหายไปจากโลกสะเถอะ..” วันที่ 31/05/2004 เป็นวันสุดท้ายที่เธอเขียนไดอารี่วันสุดท้ายว่า “วันพรุ่งนี้ฉันจะฆ่ามันด้วยมีดคัตเตอร์..” วันสุดท้ายคือวันที่ 1/6 /2004 นัทสึมิ ได้เรียก ซาโตมิ ไปคุยในห้องเรียนโล่งๆ ห้องหนึ่งและบอกกับ ซาโตมิ ให้นั่งลงบนเก้าอี้ ซาโตมิ ไม่ได้กลัวเพราะไม่คิดว่า นัทสึมิ จะกล้าทำจึงนั่งลงจากนั้น นัทสึมิ ได้เอามือปิดตา ซาโตมิ และเชือดคอจนหลอดลมขาดเธอยืนรอดู ซาโตมิ อยู่ประมาณ 15 นาทีและเห็นว่าตายแล้วเธอก็เดินออกไป เมื่อครูและเพื่อนๆ คนอื่นเห็นเลือดที่เต็มเสื้อผ้าของ นัทสึมิ ก็ตกใจพากันถ่ายรูป นัทสึมิ เธอหันไปยิ้มให้กล้องโยไม่มีที่ท่าตกใจเลยแม้แต่น้อย เรื่องราวของ นัทสึมิ ถูกนำไปทำเป็นการ์ตูน เกมคอมพิวเตอร์ และยังมีนักร้องที่นำคำว่า NEVADA ไปตั้งชื่อวงอีกด้วย และที่มาของคำว่า NEVADA มาจากตัวอักษรที่เสื้อของ นัทสึมิ เป็นเสื้อที่ใส่ก่อเหตุนั้นเอง